สะเดาะเคราะห์ แก้โรคภัยร้าย ด้วยการอาบน้ำมนต์ ตามแบบคนโบราณ

สะเดาะเคราะห์ แก้โรคภัยร้าย ด้วยการอาบน้ำมนต์ ตามแบบคนโบราณ

คติความเชื่อคนโบราณที่ภาคอีสานจะสอนลูกหลานว่าการอาบน้ำมนต์จะล้างเคราะห์แก้โรคร้าย โรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาดได้จริง ไม่ใช่แค่ความเชื่ออุบายที่ให้ขวัญกำลังใจเท่านั้น แล้วผู้ที่จะไปอาบควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง บทความนี้ Horoscope thaiza จะอธิบายความเชื่อกันลองอ่าน

     สมัยโบราณก่อนผู้ที่มีโรคภัยไข้เจ็บที่รักษาไม่หาย โรคระบาดต่าง ๆ จะหันเข้าหาวัดและพระจะแก้ปัญหาที่ว่าโดยการอาบน้ำมนต์ จะเริ่มพิธีการอาบน้ำมนต์ โดยเริ่มที่พระที่วัดจะกำหนดฤกษ์ตามความประสงค์ผู้อาบจากวันและเวลาตกฟากร่วมกับวันดีมีศรีประจำเดือนปีนั้น ผู้อาบจะต้องจ่ายค่ายกครูเป็นเงินหกเฟื้อง และบุหรี่มวนใบตองแห้ง แต่เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนการจ่ายค่ายกครูควรเป็นไปตามธรรมเนียมแต่ละวัด ผู้อาบไม่ควรมีบาดแผลฉกรรจ์ เมื่อได้ยามดีแล้วพระที่กำหนดวันจะนัดผู้อาบ ผู้อาบต้องการอาบน้ำมนต์โดยจุดประสงค์หมดเคราะห์ หมดโรคภัย หมดทุกข์โศก เสนียดจัญไร โดนคุณไสยหรือโดนกระทำย่ำยี ใส่ร้ายป้ายสีหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เพศชายให้สวมเฉพาะผ้าขาวม้า เพศหญิงควรสวมกระโจมอกอย่างเรียบร้อย พระจะบริกรรมบทสวดมนต์แล้วเทน้ำมนต์ลงไปตามตัวจนกระทั่งจบการสวด พระจะแบ่งเอาน้ำมนต์ที่เหลือให้ผู้อาบติดตัวกลับไปที่บ้านด้วย

     วันรุ่งขึ้นผู้อาบอาจนำน้ำมนต์ที่ได้มาผสมน้ำอาบ ผสมน้ำดื่มได้ตามความสะดวก การอาบน้ำมนต์วันนี้ทุกวัดอาจมีพิธีกรรมที่ต่างกันออกไป ตามความเชื่อแต่ละพื้นที่ และภูมิภาคแต่การจุดประสงค์การอาบไม่ต่างไปจากเดิม น้ำมนต์คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการบริกรรมบทสวดจากเกจิชื่อดัง คนโบราณเชื่อว่าพระที่บวชและปฏิบัติชอบจะมีวิชาอาคมแก่กล้าบริกรรมทำน้ำมนต์จะมีอำนาจด้านการล้างเคราะห์ แก้เสนียด เสริมบารมี การอาบน้ำมนต์อย่างน้อยจะเสริมกำลังใจแก่ผู้อาบด้าน กำลังใจสำหรับการทำงาน หรือใช้ชีวิตต่อไปในสังคมอย่างมั่นใจ